ถึงแม้จะทรงพ้นวันเรียนไปแล้ว พระองค์เจ้าวิภาวดีรังสิตก็ยังทรงมีอารมณ์ขันเสมอ ในปาฐกถาเรื่อง ”ประสบการณ์ที่ปักษ์ใต้”
ซึ่งทรงบรรยายให้สมาชิกของสมาคมสตรีภาคพื้นแปซิฟิกและเอเชียอาคเนย์แห่งประเทศไทยฟัง เมื่อ พ.ศ. 2517 ก็ได้ทรงแทรกอารมณ์ขันไว้หลายตอน เช่น
...คืนหนึ่งขณะที่เราค้างแรมอยู่ในกระต๊อบกลางป่าทึบ นอนเรียงกันเป็นแถว 2 แถว กลางคืนกำลังหลับสนิท ข้าพเจ้าตกใจตื่นขึ้นด้วยเสียงประหลาดๆ ก็ผุดลุกขึ้นนั่ง เท้าไปโดนอะไรเข้าไม่ได้เอาใจใส่ ครั้นรู้ว่าเสียงนั้นเป็นเสียงคนละเมอไม่ใช่สัตว์ป่าหรือผีตองเหลืออะไร ก็ลงนอนต่อไป สักครู่ก็หลับ พอเช้าลูกน้องคนหนึ่งที่นอนอยู่ปลายเท้าข้าพเจ้าเมื่อคืน ก็เข้ามาบอกข้าพเจ้าว่า “ฝ่าบาท ฝ่าบาท เมื่อคืนฝ่าบาทของฝ่าบาทมาอยู่บนพระเศียรของกระหม่อม”
นอกจากอารมณ์ขันแล้วพระองค์หญิงยังทรงกล้าเสี่ยง เป็นพระนิสัยตั้งแต่ทรงพระเยาว์มาจนตลอดพระชนม์ชีพ เช่น ทรงหัดขับรถยนต์ทุกเช้าขณะไปโรงเรียน และยังได้ทรงทดลองขับรถรางอีกทั้งได้ทรงตีระฆังรถราง ซึ่งเป็นปุ่มเหล็กที่พื้นรถอีกด้วย ยิ่งไปกว่านั้นการที่ทรงปฏิบัติภารกิจอยู่เขตของผู้ก่อการร้ายในระยะหลังแห่งพระชนม์ชีพ ก็นับเป็นการกล้าเสี่ยงอย่างยิ่ง
|